
ชีวิตน้องใหม่
"ตอนนี้เรียนอยู่มหาวิทยาลัยรังสิตปีหนึ่ง คณะนิเทศฯ สาขาการแสดงค่ะ สาขานี้เพิ่งเปิดเป็นปีแรกเลยไม่มีทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้อง ทั้งรุ่นมีแค่ยี่สิบกว่าคน ทุกคนเลยค่อนข้างสนิทกัน มีอะไรก็ช่วยกันคนละไม้คนละมือ โฟร์มีเรียนวันจัทร์-พุธ-ศุกร์ วันไหนไม่มีงานต่อก็พยายามร่วมกิจกรรมกับที่คณะให้มากที่สุด นี่เพิ่งเปิดเทอมมาเดือนกว่าๆ แต่สอบเก็บคะแนนไปหลายตัวแล้วค่ะ ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยเลยต้องมีเพื่อนดีๆ ที่เข้าใจการทำงานของเราและเต็มใจช่วย พอดีว่าทุกคนที่มาเรียนคณะนี้เขาสนใจงานทางด้านนี้อยู่แล้ว เพื่อนก็เข้าใจและสนับสนุนให้เราไปทำงาน ถ้ามีการบ้านอะไรจะคอยโทร.มาบอกตลอด โชคดีมากๆ ที่เจอเพื่อนดีน่ะค่ะ"
ละครเรื่องแรกถึงละครเรื่องล่า
"ตอนเล่นละครเรื่อง 'น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์' ไม่เคยฝึกแอ็คติ้งมาก่อน อาศัยว่าไปแคสงานโฆษณาบ่อยๆ เอาที่เขาสอนมาใช้ พอมาเล่นละครก็เลยไม่ยากมาก แต่ไม่ง่ายนักในซีนอารมณ์ โฟร์ชอบเล่นบทเด็กแก่นๆ ห้าวๆ อย่างบทที่ได้ในละครเรื่องแรก ทีมงานดูจากคาแร็กเตอร์และการพูดคุยกับโฟร์ แล้วเขียนบทมาให้ใกล้เคียงตัวเรามากที่สุด ตอนนี้โฟร์เล่นละครเรื่อง 'รักบานฉ่ำ' ก็สนุกดีได้บทที่คล้ายๆ ตัวเอง เป็นคู่กัดกับพระเอก ซนๆ แต่แอบมีเศร้าๆ เวลาอยู่กับแม่ มีบทต้องทะเลาะกันจนร้องไห้ ซึ่งยังทำอารมณ์ไม่ค่อยได้ แต่ถ้าเป็นบทโมโห โกรธ โฟร์จะชอบมาก"
ครั้งแรกที่รู้จักมด
"เขาแต่งตัวแบบว่า กระโปรงสั้นสายเดี่ยว ตัวสูงใหญ่ เราก็นึกว่า โอ๊ว! สาว ที่ไหนได้เขาอ่อนกว่าโฟร์ห้าปี ตอนเรียนร้องเพลงยังไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ เพราะมดเขาจะเหมือนเด็กๆ ชอบวิ่งไปวิ่งมา คุยกับคนนู้นทีคนนี้ที จนได้มาเรียนด้วยกันบ่อยเข้า เขาก็มาชวนโฟร์คุย หลังๆ เลยสนิทกันมากกว่าเดิม มดเป็นคนตลกค่ะ ฮาๆ ขำๆ เรื่องมีสาระไม่ค่อยมี แต่บางทีเราสองคนคุยคนละเรื่องเดียวกันก็รู้เรื่องขำกันได้ มดเข้าชอบนุ่งกระโปรงบานๆ เสื้อแขนกุดสีหวานๆ อย่างสีชมพู ถักเปียสองข้าง หวานแหวเชียว ส่วนโฟร์จะเป็นสไตล์เสื้อยืด กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ แนวลุยๆ มากกว่า"
สิ่งสำคัญของโฟร์
"ป๊ากับแม่ แล้วก็เรื่องงานด้วยค่ะ ตอนแรกโฟร์ก็ไม่ได้ชอบทางด้านนี้มาก่อน หลังจากมีโมเดลลิ่งมาให้นามบัตร แม่เป็นคนพาไปแคสงานตลอด ถ้าไม่มีแม่ก็ไม่มีโฟร์ในวันนี้เหมือนกัน ส่วนพ่อ พอเห็นโฟร์ถ่ายโฆษณาก็คิดว่าเมื่อไรลูกเราจะมีเอ็มวี พอได้เล่นเอ็มวี เมื่อไรลูกเราจะได้เล่นละคร เมื่อไรจะได้ร้องเพลง ตอนนี้ก็เหลือแต่นางแบบหรือเขียนหนังสือมั้งคะ ที่ยังไม่ได้ทำให้พ่อ แต่คงไม่ไหวค่ะ เพราะโฟร์ชอบการแสดงมากกว่าเยอะ และรู้สึกว่าสนุกกว่าด้วย"
อัลบั้มแรกในชีวิต
"จำได้ว่าก่อนเทปวางแผง เราทัวร์ตามโรงเรียน ที่แรกคือโรงเรียนศึกษานารี คิดว่าไปโรงเรียนหญิงล้วน ผู้หญิงกับผู้หญิงจะมากรี๊ดกันเองคงยาก ส่วนใหญ่เขาจะกรี๊ดผู้ชายหน้าตาดีอย่างพี่ฟิล์ม อะไรอย่างนี้ ในใจยังคิดว่าเราผู้หญิงสองคนจะรอดมั้ยนี่ แต่พอลงจากรถตู้ก็มีเสียงกรี๊ดพี่โฟร์-พี่มด (เสียงสูง) โล่งใจไปครึ่งหนึ่ง ตอนอยู่หลังเวทีเตรียมตัวจะออกมา รู้สึกว่าใจเต้นแรง ตึ้บๆ กลัวว่าจะหลุด แต่น้องๆ เขาช่วยกันร้องช่วยกันเต้น ก็เลยสนุกและรู้สึกดีมากค่ะ"
"เวลาทำงานออกมาสักชิ้น เป็นธรรมดาที่ต้องมีคนชมและคนไม่ชม มีคนรักต้องมีคนเกลียดอยู่แล้ว แต่คนเกลียดเราไม่สนใจ ถ้าคนชมเราสนใจเต็มที่ (หัวเราะ)"

"มดเรียนอยู่ม.3 ที่โยธินบูรณะ อิงลิชโปรแกรมค่ะ เป็นหลักสูตรมาจากสิงคโปร์ มดอยากเก่งภาษาอังกฤษค่ะ ตอนที่เข้าม.1 เทอมแรก เรียนไม่รู้เรื่องเลย นั่งเหวอ แต่พอเทอมสองเริ่มปรับตัวได้แล้ว ก็ทำข้อสอบได้ดีขึ้นค่ะ ตั้งใจจะเรียนภาษาอังกฤษไปจนจบม.6 เลย เพราะมดอยากมีความรู้ด้านภาษามากขึ้นน่ะค่ะ แต่หลังจากนั้นยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะเลือกเรียนคณะอะไร ต้องดูอีกทีว่าเราถนัดอะไรจริงๆ ถึงจะเลือก"
ครั้งแรกที่เจอโฟร์
"จำได้ว่าคำถามแรกที่ทักพี่โฟร์คือ 'ให้ทายหนูอายุเท่าไร' พี่โฟร์บอกคง 16-17 มั้ง แต่ตอนนั้นหนูอายุ 13! เห็นพี่โฟร์ครั้งแรกตื่นเต้น เพราะเคยเห็นเขาจากโฆษณามือถือที่พูดว่า 'เธอวางก่อนดิๆ' คิดว่าเขาน่ารัก สงสัยจะเรียบร้อย แต่พอมาทำงานด้วยกันไม่ใช่เลย แต่ไม่ตกใจนะ เพราะมดเองก็เป็นอย่างนี้เหมือนกัน"
เข้าห้องอัดครั้งแรก
"สั่น ตื่นเต้น รู้สึกกดดัน เพราะว่าไมค์ในห้องอัดเก็บเสียงหมดเลย แค่เสียงหายใจยังได้ยินเลย ถ้าเพี้ยนนิดหนึ่ง ผิดอักขระนิดหนึ่งก็เริ่มใหม่ วันแรกเพลงเดียวใช้เวลาสามชั่วโมง เพลง 'หายใจเป็นเธอ' นี่ละค่ะ แต่พอเพลงที่สามที่สี่เริ่มปรับตัวได้ รู้แล้วว่าจะต้องร้องแบบไหน เสียงถึงจะออกมาดีอย่างที่ต้องการ ไม่หนาไป ไม่แบนไป คีย์ไหนถึงจะถูก"
เพลงของมด
"มดชอบเพลงช้าๆ เศร้าๆ ซึ้งๆ ตอนเช้าก็ฟังเพลงช้าอย่างเดียว ก่อนนอนก็เปิดเพลงช้าฟัง ฟังแล้วอินกับเพลงด้วย เหมือนเข้าไปอยู่ในโลกอีกโลกหนึ่ง"
ขาดไม่ได้
"คนสำคัญของมดก็ต้องคุณพ่อคุณแม่ค่ะ เพราะท่านเป็นคนให้กำเนิดเรามา รักเรามาก ถ้ามีอะไรผิดพลาดจะคอยแนะนำ ให้คำปรึกษาได้ทุกเรื่อง มดเป็นลูกคนเดียว คุณแม่จะคอยตามมดไปงานด้วย ส่วนคุณพ่อต้องทำงานทุกวัน แต่ก็จะอัดทุกรายการที่มดไปออก"
"อีกอย่างที่ขาดไม่ได้ตอนนี้ มดต้องกินวิตามินรวมและแคลเซียมเป็นประจำทั้งเช้าและก่อนนอน รังนกด้วย กินวิตามินแล้วไม่เป็นหวัดเลย หรือใครเป็นหวัดมาอยู่ใกล้เราก็ไม่ติด"
ความฝัน
"อยากแสดงละครค่ะ ยังไม่เคยแสดงเลย เอ็มวีคล้ายๆ แสดงละครแต่ไม่ได้พูด อยากจะลองทำงานอีกสไตล์หนึ่ง เพราะสิ่งอยากทำคือร้องเพลงก็ได้ทำแล้ว อยากลองใช้อารมณ์ในการแสดงดูว่าจะออกมาเป็นยังไง เห็นพี่โฟร์แสดงแล้วน่าสนุก มดเป็นพวกติดละครด้วย อีกอย่างหนึ่งมดคิดว่างานละครทำให้ได้เจอคนหลายๆ คน และได้รู้ความคิดเห็นคนหลายๆ แบบค่ะ"
