Smile

ซื้อหนังสือสมายมาแร้วคร่า มีสัมภาษณ์พี่โฟร์ด้วย ก้อเลยเอามาลงหั้ยชาวโฟร์แฟนได้อ่านกานน้าคร่า
โฟร์ ศกลรัตน์ วรอุไร
เปิดใจเรื่องความรัก...กับเรื่องราวที่ใครๆก็อยากรู้
เป็นไงบ้างค่ะกับผลงานละคร หิมะใต้พระจันทร์
ตอนนี้ปิดกล้องเรียบร้อยแล้ว วันนี้ก็ดีใจนะคะที่ได้กลับมาเจอพี่ๆอีก จะว่ายากมั้ยก็ไม่ยากมากค่ะ เพราะในเรื่องนี้โฟร์ต้องรับบทเป็นคนที่ค่อนข้างจะเอาแต่ใจตัวเองแล้วก็ขี้โมโหด้วย เวลาจะพูดอะไรก็แรงไปนิดนึง แต่ต้องร้องไห้เยอะมากคือพอไม่ได้ดั่งใจก็จะร้องไห้ ในเรื่องก็จะไปลงไม้ลงมือกับพี่เอสตลอดค่ะ
ไปถ่ายทำที่เกาหลีเป็นไงบ้างค่ะ
ยากมากโดยเฉพาะฉากต้องร้องไห้ คือเวลาน้ำตามาปุ๊บลมก็พัดน้ำตาหาย...อากาศก็หนาว ต้องทำอารมณ์เยอะมากๆ เวลาพูดปากก็จะสั่นๆ ต้องทามน้ำอุ่นเยอะๆ เพราะจะมีปัญหาเสียงขึ้นจมูก แต่ก็สนุกนะค่ะ..ภาพออกมาก็สวยด้วยล่ะ
มีหนุ่มๆในกองคนไหนคอยเทคแคร์บ้างเปล่า
ไม่มีค่ะ....เพราะว่าโฟร์มีพี่สาวกับพี่ชายไปดูแล ไปสองคนเลย เพราะกลัวน้องเหงา (ได้ข่าวว่ามีหนุ่มเกาหลีชอบเยอะหรอ) ก็มีมาขอถ่ายรูป แล้วก็ถามว่าเป็นคนประเทศอะไรน่ารักจัง แล้วเขาไม่รู้ว่าเราเป็นดารา เพราะวันนั้นโฟร์ไม่ได้มีคิว คือโฟร์ยืนๆอยู่เขาก็มาทักเป็นภาษาอังกฤษ สำเนียงก็ออกจะแปลกๆ ก็ได้พี่เอสมาช่วยเป็นล่ามให้ แรกๆก็เขินๆ พอหลังๆชักเยอะขึ้นก็เลยชินนะ...ก็ถ่ายเก็บฉากสำคัญๆ ที่เกาหลีแล้วกลับมาถ่ายต่อนี่บ้านเราก็ยังมีซีนที่ต้องใส่เสื้อผ้าหนาๆ ทำเป็นหนาว แต่จริงๆ แล้วร้อนมากค่ะ
ปกติโฟร์หนักเท่าไหร่
ตอกลับมาจากเกาหลีอ้วนขึ้นนะค่ะ แล้วเวลาอ้วนนี่หน้าโฟร์จะออกก่อนเลย ปกติโฟร์หนัก 38 กก. แล้วพออ้วนหนัก 42 กก. ก็หน้าบานเลยจนต้องไปลด คือเวลาอ้วนจะไปที่หน้าแต่ตัวจะผอมเท่าเดิม ถ้าโฟร์ไม่ได้ทำงานตรงนี้ก็คงจะอ้วนกว่านี้ เพราะไม่ต้องแคร์ใครและไม่มีใครรู้จักเราอยู่แล้ว...
แล้วกับข่าวที่ว่าเกี่ยวกับ โบกี้ เป็นมายังไงค่ะ
จริงๆแล้วโฟร์ก็คุยกับพี่ๆทุกคนเวลาต้องไปเจอกันตามงาน แต่ข่าวที่ออกมาคงมีคนเห็นโฟร์ยืนคุยกับพี่โบกี้มั้งค่ะ แล้วก็เอาไปขยายความ ส่วนตัวก็คุยกับพี่เขาเพราะเขาค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่ มีอะไรก็ปรึกษากันได้ แต่พี่เขาไม่ได้มาจีบค่ะ พอมีข่าวออกมาก็ไม่มีอะไร ไม่มีใครซีเรียสเพราะว่ามันไม่มีอะไรเลยจริงๆ อย่างโฟร์ไปนั่งกินข้าวกับพี่ชายชื่อ ทู ก็เคยเป็นข่าวด้วยกันมาแล้วก็เลยเฉยๆ ค่ะ
แล้วสเป็คหนุ่มในฝันของโฟร์ล่ะ
โฟร์เป็นคนที่ไม่มีสเป็ค คือถ้าจะคบกันจริงๆ ก็คบกันได้แต่ว่าไม่มีอะไรจริงๆ ทางบริษัทก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเขาก็เห็นทุกคนเป็นพี่น้องกันหมด แล้วโฟร์ก็ทำงานครบ 7 วัน เจอแต่คนหน้าเดิมๆในกองถ่าย อย่างพี่แทคก็ทำงานพิธีกรร่วมกันมาปีกว่าแล้ว กับพี่หลุยส์เขาก็ไม่ได้คิดอะไร ก็คุยกันได้ยกเว้นเรื่องส่วนตัวค่ะ เพราะเราก็ต้องให้เกียรติเขา
มีใครมาจีบบ้างมั้ย
ก็มีนะ...แต่ถ้าเขาเข้ามาในลักษณะนั้นโฟร์ก็จะพูดเลยว่าอย่ามาจีบนะ คือโฟร์จะพูดตรงๆ ถ้าเกิดเขาเข้ามาในท่าทีแบบนี้ คือโฟร์รู้สึกว่าเรายังไม่พร้อม ยังไม่มีเวลาไปกินข้าวด้วยกันหรือโทรหากันทุกวัน จะว่าปิดมั้ย ก็ปิดเหมือนกันนะเพราะเราอยากทำงานให้เต็มที่
พอมีข่าวออกมาบ่อยๆ รู้สึกยังไง
ก็ระวังตัวมากขึ้นนะ...คือพอเป็นข่าวมากขึ้นมันก็จะดูไม่ดี ทั้งที่จริงๆมันไม่มีอะไร ทางผู้ใหญ่เขาก้ไม่ได้ห้ามว่าเราอย่าคบใครนะ อย่างข่าวโฟร์ทะเลาะกับมด อีก คือโฟร์กับน้องนี่ โฟร์อายุมากกว่าน้องเขา 5 ปี กิจกรรมหรือสิ่งที่คุยกันเยอะยิ่งเวลาต่างคนต่างเหนื่อย ก็จะชอบนั่งนิ่งๆ เหมือนกัน บางทีต่างคนก็ต่างทำสมาธิก่อนขึ้นเวที คนที่มาเห็นช่วงนั้นก็อาจจะคิดไปเองว่าเราสองคนอยู่ด้วยกันทำไมไม่คุยกัน ทั้งที่เราก็สนิทกัน แบบว่าถ้ามองตากันก็จะรู้แล้วว่าต่างฝ่ายต่างคิดอะไร พอมีข่าวออกมายังมาคุยกันเลยว่าข่าวมันออกมาจากไหนพี่โฟร์รู้มั้ย โฟร์ก็บอกไม่รู้เหมือนกันมันตลกเน๊อะ ไม่ว่าข่าวจะออกมากับใครเราเจอใครก็ทักทายกันเหมือนเดิมค่ะ
แล้วมีประเภทโทรมาจีบบ้างมั้ย
ปกติถ้าเบอร์แปลกๆ ที่ไม่คุ้น โฟร์ก็จะไม่รับอยู่แล้วค่ะ แล้วก็หมดสิทธิ์แล้วล่ะที่จะโทรมาจีบกัน เวลามีคนเข้ามาโฟร์ก็จะไม่ค่อยเปิดโอกาสคุยกันเต็มๆ แต่ที่ให้ดอกไม้หรือเจอที่มหาลัยก็มีบ้างเหมือนกัน แต่ประเภทแปลกๆ ยังไม่เจอ เพราะโฟร์เป็นคนที่ค่อนข้างจะระวังตัวเองมากเหมือนกัน คือถ้าไปไหนข้างนอกก็จะไปกับคนในครอบครัว โอกาสที่ใครจะเข้ามาจีบก็จะยากหน่อย เพราะโฟร์จะอยู่กับครอบครัว
ชอบผู้ชายนิสัยยังไงค่ะ
โฟร์เป็นคนที่ชอบผู้ชายตลกๆค่ะ คุยกันแบบไม่ซีเรียสอะไร คือถ้าเข้ามาจังๆ จะไม่ค่อยชอบ แต่ถ้าตะล่อมๆ นี่พอได้ค่ะ (หัวเราะ)
จบแร้วจร้า
โฟร์ ศกลรัตน์ วรอุไร
เปิดใจเรื่องความรัก...กับเรื่องราวที่ใครๆก็อยากรู้
เป็นไงบ้างค่ะกับผลงานละคร หิมะใต้พระจันทร์
ตอนนี้ปิดกล้องเรียบร้อยแล้ว วันนี้ก็ดีใจนะคะที่ได้กลับมาเจอพี่ๆอีก จะว่ายากมั้ยก็ไม่ยากมากค่ะ เพราะในเรื่องนี้โฟร์ต้องรับบทเป็นคนที่ค่อนข้างจะเอาแต่ใจตัวเองแล้วก็ขี้โมโหด้วย เวลาจะพูดอะไรก็แรงไปนิดนึง แต่ต้องร้องไห้เยอะมากคือพอไม่ได้ดั่งใจก็จะร้องไห้ ในเรื่องก็จะไปลงไม้ลงมือกับพี่เอสตลอดค่ะ
ไปถ่ายทำที่เกาหลีเป็นไงบ้างค่ะ
ยากมากโดยเฉพาะฉากต้องร้องไห้ คือเวลาน้ำตามาปุ๊บลมก็พัดน้ำตาหาย...อากาศก็หนาว ต้องทำอารมณ์เยอะมากๆ เวลาพูดปากก็จะสั่นๆ ต้องทามน้ำอุ่นเยอะๆ เพราะจะมีปัญหาเสียงขึ้นจมูก แต่ก็สนุกนะค่ะ..ภาพออกมาก็สวยด้วยล่ะ
มีหนุ่มๆในกองคนไหนคอยเทคแคร์บ้างเปล่า
ไม่มีค่ะ....เพราะว่าโฟร์มีพี่สาวกับพี่ชายไปดูแล ไปสองคนเลย เพราะกลัวน้องเหงา (ได้ข่าวว่ามีหนุ่มเกาหลีชอบเยอะหรอ) ก็มีมาขอถ่ายรูป แล้วก็ถามว่าเป็นคนประเทศอะไรน่ารักจัง แล้วเขาไม่รู้ว่าเราเป็นดารา เพราะวันนั้นโฟร์ไม่ได้มีคิว คือโฟร์ยืนๆอยู่เขาก็มาทักเป็นภาษาอังกฤษ สำเนียงก็ออกจะแปลกๆ ก็ได้พี่เอสมาช่วยเป็นล่ามให้ แรกๆก็เขินๆ พอหลังๆชักเยอะขึ้นก็เลยชินนะ...ก็ถ่ายเก็บฉากสำคัญๆ ที่เกาหลีแล้วกลับมาถ่ายต่อนี่บ้านเราก็ยังมีซีนที่ต้องใส่เสื้อผ้าหนาๆ ทำเป็นหนาว แต่จริงๆ แล้วร้อนมากค่ะ
ปกติโฟร์หนักเท่าไหร่
ตอกลับมาจากเกาหลีอ้วนขึ้นนะค่ะ แล้วเวลาอ้วนนี่หน้าโฟร์จะออกก่อนเลย ปกติโฟร์หนัก 38 กก. แล้วพออ้วนหนัก 42 กก. ก็หน้าบานเลยจนต้องไปลด คือเวลาอ้วนจะไปที่หน้าแต่ตัวจะผอมเท่าเดิม ถ้าโฟร์ไม่ได้ทำงานตรงนี้ก็คงจะอ้วนกว่านี้ เพราะไม่ต้องแคร์ใครและไม่มีใครรู้จักเราอยู่แล้ว...
แล้วกับข่าวที่ว่าเกี่ยวกับ โบกี้ เป็นมายังไงค่ะ
จริงๆแล้วโฟร์ก็คุยกับพี่ๆทุกคนเวลาต้องไปเจอกันตามงาน แต่ข่าวที่ออกมาคงมีคนเห็นโฟร์ยืนคุยกับพี่โบกี้มั้งค่ะ แล้วก็เอาไปขยายความ ส่วนตัวก็คุยกับพี่เขาเพราะเขาค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่ มีอะไรก็ปรึกษากันได้ แต่พี่เขาไม่ได้มาจีบค่ะ พอมีข่าวออกมาก็ไม่มีอะไร ไม่มีใครซีเรียสเพราะว่ามันไม่มีอะไรเลยจริงๆ อย่างโฟร์ไปนั่งกินข้าวกับพี่ชายชื่อ ทู ก็เคยเป็นข่าวด้วยกันมาแล้วก็เลยเฉยๆ ค่ะ
แล้วสเป็คหนุ่มในฝันของโฟร์ล่ะ
โฟร์เป็นคนที่ไม่มีสเป็ค คือถ้าจะคบกันจริงๆ ก็คบกันได้แต่ว่าไม่มีอะไรจริงๆ ทางบริษัทก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเขาก็เห็นทุกคนเป็นพี่น้องกันหมด แล้วโฟร์ก็ทำงานครบ 7 วัน เจอแต่คนหน้าเดิมๆในกองถ่าย อย่างพี่แทคก็ทำงานพิธีกรร่วมกันมาปีกว่าแล้ว กับพี่หลุยส์เขาก็ไม่ได้คิดอะไร ก็คุยกันได้ยกเว้นเรื่องส่วนตัวค่ะ เพราะเราก็ต้องให้เกียรติเขา
มีใครมาจีบบ้างมั้ย
ก็มีนะ...แต่ถ้าเขาเข้ามาในลักษณะนั้นโฟร์ก็จะพูดเลยว่าอย่ามาจีบนะ คือโฟร์จะพูดตรงๆ ถ้าเกิดเขาเข้ามาในท่าทีแบบนี้ คือโฟร์รู้สึกว่าเรายังไม่พร้อม ยังไม่มีเวลาไปกินข้าวด้วยกันหรือโทรหากันทุกวัน จะว่าปิดมั้ย ก็ปิดเหมือนกันนะเพราะเราอยากทำงานให้เต็มที่
พอมีข่าวออกมาบ่อยๆ รู้สึกยังไง
ก็ระวังตัวมากขึ้นนะ...คือพอเป็นข่าวมากขึ้นมันก็จะดูไม่ดี ทั้งที่จริงๆมันไม่มีอะไร ทางผู้ใหญ่เขาก้ไม่ได้ห้ามว่าเราอย่าคบใครนะ อย่างข่าวโฟร์ทะเลาะกับมด อีก คือโฟร์กับน้องนี่ โฟร์อายุมากกว่าน้องเขา 5 ปี กิจกรรมหรือสิ่งที่คุยกันเยอะยิ่งเวลาต่างคนต่างเหนื่อย ก็จะชอบนั่งนิ่งๆ เหมือนกัน บางทีต่างคนก็ต่างทำสมาธิก่อนขึ้นเวที คนที่มาเห็นช่วงนั้นก็อาจจะคิดไปเองว่าเราสองคนอยู่ด้วยกันทำไมไม่คุยกัน ทั้งที่เราก็สนิทกัน แบบว่าถ้ามองตากันก็จะรู้แล้วว่าต่างฝ่ายต่างคิดอะไร พอมีข่าวออกมายังมาคุยกันเลยว่าข่าวมันออกมาจากไหนพี่โฟร์รู้มั้ย โฟร์ก็บอกไม่รู้เหมือนกันมันตลกเน๊อะ ไม่ว่าข่าวจะออกมากับใครเราเจอใครก็ทักทายกันเหมือนเดิมค่ะ
แล้วมีประเภทโทรมาจีบบ้างมั้ย
ปกติถ้าเบอร์แปลกๆ ที่ไม่คุ้น โฟร์ก็จะไม่รับอยู่แล้วค่ะ แล้วก็หมดสิทธิ์แล้วล่ะที่จะโทรมาจีบกัน เวลามีคนเข้ามาโฟร์ก็จะไม่ค่อยเปิดโอกาสคุยกันเต็มๆ แต่ที่ให้ดอกไม้หรือเจอที่มหาลัยก็มีบ้างเหมือนกัน แต่ประเภทแปลกๆ ยังไม่เจอ เพราะโฟร์เป็นคนที่ค่อนข้างจะระวังตัวเองมากเหมือนกัน คือถ้าไปไหนข้างนอกก็จะไปกับคนในครอบครัว โอกาสที่ใครจะเข้ามาจีบก็จะยากหน่อย เพราะโฟร์จะอยู่กับครอบครัว
ชอบผู้ชายนิสัยยังไงค่ะ
โฟร์เป็นคนที่ชอบผู้ชายตลกๆค่ะ คุยกันแบบไม่ซีเรียสอะไร คือถ้าเข้ามาจังๆ จะไม่ค่อยชอบ แต่ถ้าตะล่อมๆ นี่พอได้ค่ะ (หัวเราะ)
จบแร้วจร้า
