
"ไม่คิดเลยค่ะว่า คนโก๊ะๆ ซุ่มซ่าม เอ๋อๆ อย่างหญิง จะได้ตำแหน่ง" หญิงตอบด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นที่ยังไม่หาย จนเธอต้องขอสูดลมหายใจลึกๆ เมื่อนักข่าวเข้ามารุมล้อมขอสัมภาษณ์
หน้าใสๆ ของสาวน้อยวัย 15 ปี คนนี้ หลายคนคงคุ้นหน้าคุ้นตากันบ้าง จากภาพยนตร์โฆษณาแป้งทาหน้ายี่ห้อหนึ่ง และภาพยนตร์โฆษณาชุดเครื่องใช้ไฟฟ้ายี่ห้อหนึ่ง แต่เชื่อว่า เพียงข้ามคืนเดียว พลอยปภัส ธนันต์ชัยกานต์ หรือ หญิง จะเป็นที่รู้จักของคนในสังคมมากขึ้น เพราะเธอสามารถชนะใจกรรมการ และ คว้าตำแหน่ง มิสทีน ไทยแลนด์ 2007 มาครองได้สำเร็จ
เจ้าของมงกุฎ มิสทีน ไทยแลนด์ คนล่าสุด เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนวารีเชียงใหม่ จากจังหวัดเชียงใหม่ อุปนิสัยที่เห็นได้ชัดเจนตั้งแต่วันที่มาสมัคร ทำกิจกรรมเก็บตัว และที่เจ้าตัวก็ยอมรับคือ การยิ้มง่าย ร่าเริง สดใส และมั่นใจในตัวเอง
หญิงให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกดีใจมากที่ได้ตำแหน่ง เพราะการได้รับตำแหน่งครั้งนี้เปรียบเสมือนเป็น "บันไดก้าวแรก" ที่จะพาเธอไปสู่ความฝัน นั่นคือการได้เข้ามาทำงานในวงการบันเทิง เธอใฝ่ฝันที่จะเป็นนักแสดง พิธีกร เพราะส่วนตัวแล้วชอบงานบันเทิง ชอบการแต่งตัวสวยๆ ซึ่งสามารถสร้างรอยยิ้มและความสุขให้กับคนอื่นได้
ทว่า...เธอก็ไม่ทิ้งการเรียน เพราะทุกวันนี้ หญิงแทบจะไม่มีเวลาไป "เที่ยวเตร่" นอกจากเรียนที่โรงเรียนแล้ว ตอนเย็นของทุกวันไม่เว้นเสาร์-อาทิตย์ หญิงยังไปเรียนพิเศษทั้งเรื่องภาษาและดนตรีไทย นั่นเพราะเป้าหมายในชีวิตสูงสุดของเธอ การได้เป็นเภสัชกร
"ตอนแรกอยากเป็นหมอ แต่เมื่อตัดสินใจแล้วว่า ขอทำงานด้านบันเทิงด้วย หญิงจึงเปลี่ยนใจอยากเป็นเภสัชกรแทน เพราะอาจจะทำให้การแบ่งงานทั้งสองอย่างได้ลงตัวกว่า ทุกวันนี้จึงต้องตั้งใจเรียนไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษ ที่ขอคุณแม่เรียนพิเศษตัวต่อตัว เพราะกังวลว่าหญิงเป็นเด็กต่างจังหวัดอาจจะสู้เด็กกรุงเทพฯ ไม่ได้ ส่วนเรื่องดนตรีไทยก็ขอเรียนเองเหมือนกันค่ะ เล่นได้เกือบหมดทุกชนิด"

เบื้องหลังความสำเร็จทั้งหมดทั้งปวง มิสทีน ไทยแลนด์ 2007 ขอยกรางวัลทั้งหมดให้กับคุณแม่ ชุลีรัตน์ และคุณพ่อเลี้ยง โนริฮิโตะ เทระมาเอะ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพปลาส่งออกชาวญี่ปุ่น บริษัทหนึ่งที่จังหวัดระนอง ที่ให้การสนับสนุนและเป็นกำลังใจตลอดมา
"รางวัลนี้หญิงไม่ขอเก็บไว้เอง ขอยกให้คุณแม่คุณพ่อทั้งหมด เพราะคุณแม่เป็นแม่ที่ดีที่สุดในโลกของหญิง แม่จะปล่อยให้หญิงได้ตัดสินใจเอง ทั้งการเข้าประกวด การถ่ายแบบโฆษณา ถ้าแม่เห็นว่าหญิงชอบ แม่จะตามใจและให้หญิงได้เรียนรู้ด้วยตัวเองว่า สิ่งที่คิดว่าชอบนั้นดีจริงหรือไม่ แม่จะบอกว่า อะไรที่ไม่เคยลองถ้าไม่เสียหาย ก็น่าจะลองดู และให้กำลังใจเสมอ ช่วงที่เก็บตัว ก็ถูกพี่ๆ กองประกวดดุบ้าง หญิงก็น้อยใจ แต่แม่จะให้กำลังใจตลอด และสอนว่า หญิงต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น แม่เชื่อว่าหญิงทำได้"
และเธอก็ทำได้จริงๆ...








