คำวิจารณ์แรกของดรีมทีมมาแล้ว ใครที่ยังไม่ได้ดู โปรดอย่าลากดูตรงที่ว่างสีขาวๆนะครับ เพราะค่อนข้างมี Spoiler อยู่ด้วย เดี๋ยวเสียอรรถรสในการชมหมด
ดรีมทีม..ถือว่าลงตัวในทุกๆด้าน ทั้งสาระ ความบันเทิง และแง่มุมที่สอดแทรกเข้ามาในหนัง ถือเป็นความบันเทิงชั้นยอดในยามที่บ้านเมืองร้อนระอุทั้งอากาศรวมทั้งจิตใจคน หนังมาพร้อมเด็กๆที่เป็นเจ้าของความน่ารักในตัวเองสูงมากๆ ทั้งน้องคาร์บิว , เซ็นหนึ่ง , เซ็นสอง , อะตอม , น้องเป๊ะ รวมไปถึงน้องๆคนอื่นๆในเรื่อง ที่แย่งกันขโมยซีนไปมา สร้างความสนุกสนานให้กับคนดูได้ดีทีเดียว นักแสดงในเรื่องต่างทำหน้าที่ได้ดีในแบบฉบับของแคแรกเตอร์ที่ได้รับมอบหมาย โฟร์-สกลรัตน์ อีกหนึ่งสีสันของเรื่อง ที่ขึ้นจอได้ฉีกแคแรกเตอร์และเป็นธรรมชาติอย่างมาก สร้างเสียงหัวเราะให้กับคนดูกับบทสาวมาดห้าวทอมบอย ที่ไม่ค่อยเกรงใจใคร ..อีกทั้งยังมีไดอะล็อกที่เอื้อต่อมุกตลกในแต่ละฉาก ถือว่าโฟร์ขึ้นมาเป็นตัวเด่น ขโมยซีนเด็กๆได้ดีทีเดียว , ป๋ากิ๊ก ก็ขึ้นจอในมาดโค้ชอ้วนตุ้ยนุ้ย ที่มีทั้งอารมณ์ดราม่าและอารมณ์ขบขันในตัวเอง ที่ป๋ากิ๊กสามารถ Switch แคแรกเตอร์ต่างสถานการณ์ ต่างอารมณ์ได้อย่างดี ในบทที่ต้องตลก ป๋าแกก็พาคนดูขำท้องแข็ง ในส่วนของนักแสดงรายอื่นๆ ที่เหมือนจะคุ้นหน้าคุ้นตากันดีจากหนังเรื่องก่อนของผู้กำกับ เรียว กิตติกร เรื่อง เมล์นรกหมวยยกล้อ ไม่ว่าจะเป็น เจ๊จิ๊ก-เนาวรัตน์ , คมสันต์ , อ้น ศรีพรรณ หรือจะที่เพิ่งมาร่วมงานกันอย่าง อ่ำ-อัมรินทร์ , เอกราช และเมย์-ภัทรวรินทร์ ก็สามารถผลักดันแคแรกเตอร์ของตัวเองไปสู่จุดหมายได้อย่างสมบูรณ์ เป็นพ่อแม่ต่างแคแรกเตอร์ แต่สุดท้ายแล้วก็เป็นพ่อแม่ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากชีวิตจริงของคนเรานี่แหละ เป็นแคแรกเตอร์ที่ดูน่าเชื่อถือ
หนังมาพร้อมเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้ เอาชนะ ฟันฝ่าอุปสรรคของเด็กน้อยตาดำๆ ที่ต้องมาแข่งขันชักกะเย่อ เกมกีฬาที่เขาไม่เคยจับต้องมาก่อน ไม่ต่างอะไรกับกีฬาที่ผู้ใหญ่เขาแข่งกัน เด็กเหล่านี้มีความหวัง มีกำลังใจที่จะเล่นเกมเพื่อคว้าชัยชนะ แต่ในขณะเดียวกัน ก็สอดแทรกไปด้วยอุปสรรคที่เข้ามาขัดขวาง ทั้งความขัดแย้งกันเอง ไปจนถึงการพลิกสถานการณ์เพื่อให้กลายเป็นโอกาส แต่หนังดันเป็นเจ้าของบทสรุปที่ดูจะไม่น่าชื่นชมสักเท่าไหร่ เพราะในขณะที่แกนกลางของเรื่อง เด็กๆพยายามตั้งหน้าตั้งตาซ้อมกัน ท่ามกลางความคาดหวังของบรรดาพ่อแม่ แต่สุดท้ายดันมาชนะฟลุคซะนี่ แต่อย่างน้อยก็แสดงให้เราเห็นได้ว่า เด็กๆพวกนี้มีความเป็นผู้ใหญ่เกินกว่าที่เรามองเพียงภายนอก และพวกเขาก็เต็มที่และจริงจังในสิ่งที่พวกเขากำลังทำ ..
เรียว กิตติกร ทำหนังได้แปลกฉีกมุม หลังจากหนังที่ค่อนข้างจะอิงแนวตัวเองมาตลอดทั้ง โกลคลับ , อหิงสา จนขอมาแขวะการเมืองในเรื่อง เมล์นรกหมวยยกล้อ มาเรื่องนี้พี่แกไม่ขอพึ่งพาปัญหาสังคมหรือบ้านเมืองในการขับเคลื่อนหนัง เปลี่ยนมาเป็นการนำเสนอชีวิตครอบครัว ความผูกพัน ผ่านเด็กๆน้อยตาดำๆทั้งหลาย ที่มีเป้าหมายเดียวกันคือเกมส์การแข่งขัน น่ารัก สดใส และได้ความบันเทิงเต็มอิ่ม ยิ้มแก้มปริ ..หนังไทยดีดีที่หลายๆคนไม่ควรพลาดในช่วงนี้เลยทีเดียว อย่างน้อยเรียวก็มีผลงานที่เป็นมาสเตอร์พีซได้ไม่ยากแล้วล่ะ ในตอนนี้
กล้วยทอดแล้ววว... ฮ่าๆ
คะแนน : 9.5 / 10
คะแนนมาจากผู้ที่ดูหนังเก่งมากๆท่านหนึ่งใน siamzone และคำวิจารณ์ดีที่สุดในบรรดาหนังทั้ง 3 เรื่องที่ฉายพร้อมกันด้วย ขนาด ลองของ 2 ที่ผมว่าน่าจะชนะดรีมทีมได้ ยังด้อยคุณภาพกว่าภาคแรกไปนิดเลยครับ(ขาดคนกำกับไปคนนึงด้วย เลยทำให้หนังไม่ค่อยลงตัวเท่าไร)
http://www.siamzone.com/board/view.php?sid=404222