แม่และป๊าสอนโฟร์มาตลอดว่า คนเราต้องรู้จักนอบน้อม รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่ ต้องกตัญญูรู้คุณกับ ผู้ที่มีพระคุณกับเรา ไม่ว่าเขาผู้นั้นจะโตกว่าหรือเด็กกว่าเราก็ตาม และถ้ามีโอกาสก็ต้องรีบหาทางตอบแทนผู้ที่มีพระคุณกับเราด้วย นับตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้โฟร์ก็ยึดความกตัญญูไว้ในใจตลอดมา
และแม้ว่าแม่กับป๊าจะสอนให้โฟร์รู้จักกตัญญูกับบุคคลอื่นเป็นเรื่องสำคัญ แต่โฟร์ก็ไม่ลืมที่จะกตัญญูกับผู้ที่ให้ชีวิตและดูแลโฟร์มาตั้งแต่เล็กจนโตอย่าง “แม่กับป๊า” ด้วยย้อนไปในอดีตที่ตอนเด็กๆ โฟร์เห็นแม่กับป๊าทำงานหนัก เพื่อที่จะหาเงินมาเลี้ยงดูและส่งเสียลูกๆ ทั้ง 4 คน ให้ได้เรียนหนังสือสูงๆ เท่าที่แม่กับป๊าจะทำได้
ตอนนั้นเห็นแม่และป๊าทำงานหนัก บอกตามตรงว่ารู้สึกสงสารท่านมาก แต่ก็ช่วยอะไรท่านไม่ได้นอกจากเป็นเด็กดี ไม่สร้างความเดือดร้อน และพยายามแบ่งหน้าที่รับผิดชอบงานบ้านกับพี่ๆ อีก 3 คน ไม่ว่าจะเป็นกวาดบ้าน ถูบ้าน ซักผ้า รีดผ้า และรับผิดชอบในเรื่องการเรียนของตัวเองให้ดี ในขณะเดียวกันนั้นก็แอบนึกในใจว่าว่า
“สักวันหากเราโตขึ้น จะทำงานหาเงินเลี้ยงแม่กับป๊าให้ได้ จะไม่ให้แม่กับป๊าเหนื่อยแบบนี้อีกแล้ว”
จนวันนึงที่โฟร์ได้เข้ามาสู่วงการบันเทิง และได้หาเงินมาแบ่งเบาภาระแม่และป๊า โฟร์พยายามทำงานเต็มที่เพื่อให้แม่กับป๊าไม่ต้องทำงานหนักอีกต่อไป ยอมรับว่าการทำงานในวงการบันเทิงตรงนี้ บางครั้งรู้สึกเหนื่อยและล้ากับงานที่ไม่มีวันหยุด พักผ่อนไม่เต็มที่
แต่โฟร์ก็ไม่เคยนึกท้อแม้แต่นิดเดียว ไม่ใช่เพราะโฟร์เป็นหญิงเหล็กที่เก่งกล้ากว่าใคร แต่เป็นเพราะจิตใต้สำนึกที่คอยเตือนเสมอ ว่าตัวเองมีหน้าที่แบ่งเบาภาระในครอบครัว และดูแลรับผิดชอบครอบครัวให้ดี เท่าที่เราจะมีแรงทำได้ และสิ่งนี้คือความกตัญญูที่ลูกคนนึงพึ่งปฏิบัติต่อคุณแม่-คุณพ่อ
และการที่ได้มอบความกตัญญูให้กับแม่และป๊านี้เอง ทำให้บางครั้งโฟร์แอบภูมิใจในตัวเองเล็กๆ ที่ทำตัวเป็นลูกที่ดีกับแม่และป๊า ถึงว่ามันจะไม่ได้ดีเลิศเลอก็ตาม แต่โฟร์ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุดและดีขึ้นในทุกๆ วัน และวันนี้สิ่งที่โฟร์รู้สึกปลาบปลื้มใจมากที่สุด นั่นคือการได้รับรางวัล
“ลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่ ประจำปี 2551” เนื่องใน “วันแม่แห่งชาติ”
จากสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งเป็นรางวัลอันทรงเกียรติ ที่ทำให้โฟร์ภาคภูมิใจมาก รวมไปถึงแม่กับป๊าที่ดีใจไปกับโฟร์ด้วย แม้ว่า “รางวัล” ที่ได้รับจะทวีคุณค่าและหน้าตาทางสังคม แต่โฟร์ก็ไม่คิดว่าตัวเองดีเด่นไปกว่าใคร
แต่กลับยิ่งทำให้โฟร์ต้องทวีความรักและความกตัญญูอยู่ต่อแม่และป๊ามากทวีคูณด้วย โฟร์ขอเป็นกำลังใจ ห้ลูกๆ ทุกคนที่ปฏิบัติดีและกตัญญูกับพ่อแม่ มุ่งมั่นทำสิ่งดีๆ นี้ต่อไป เพราะความสุขใจจากการได้ตอบแทนบุญคุณพ่อคุณแม่ ผู้ซึ่งเป็น “ผู้ให้กำเนิด” ชีวิตแก่เรา นั้นแหละคือ “รางวัล” ที่แท้จริง
โฟร์-ศกลรัตน์ วรอุไร
credit: dalinews