"โฟร์-มด" โต้ต้นเหตุ "วิบัติ" "อ.กาญจนา" จี้เข้มพิธีกร

"กาญจนา นาคสกุล" ราชบัณฑิตด้านภาษาไทยจี้ตรวจสอบดารา พิธีกรรายการทีวีที่ชอบพูดภาษาแอ๊บแบ๊ว เพราะทำให้เยาวชนเลียนแบบ ด้านนักร้องดัง "นิโคล เทริโอ ปานพุ่ม" ชี้ภาษาแอ๊บแบ๊วเป็นการพูดแซวกันกลุ่มเพื่อนสนิท ไม่ซีเรียส แนะโจ๋พูดภาษาให้ถูกต้อง ส่วนสองนักร้องดังวง "โฟร์มด" ยันไม่ได้เป็นต้นแบบให้โจ๋เอาอย่างพูดแอ๊บแบ๊ว แต่ที่ต้องร้องเพลงไม่ชัด เพราะเป็นการดีไซน์เพลงเท่านั้น ผอ.กลุ่มเฝ้าระวังทางวัฒนธรรมชี้หากไม่เร่งแก้ไข จะกลายเป็นความเคยชิน ส่งผลกระทบต่อภาษาไทย เลขาฯ วัฒนธรรมแห่งชาติเตรียมจัดเวทีถกภาษาแอ๊บแบ๊วส.ค.นี้ เชิญดารา นักร้องร่วมแสดงความคิดเห็น เผยรายละเอียดคำนิยาม "แอ๊บแบ๊ว" มีทั้งลักษณะท่าทาง และภาษาพูด เช่นทำหน้าขี้สงสัยตลอดเวลา ทำแก้มป่อง ยิงมุมปากนิดๆ ให้ดูไร้เดียงสา

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 ก.ค. น.ส.ลัดดา ตั้ง สุภาชัย ผอ.กลุ่มเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า แอ๊บแบ๊วเป็นกิริยามารยาท ท่าทาง ภาษาที่ใช้อย่างไม่ถูกต้อง ตนได้รับรายงานเรื่องนี้จากเครือข่ายครอบครัว เด็กและเยาวชน กลุ่มเครือข่ายเฝ้าระวังฯ มาบ้างเหมือนกันว่า มีเพื่อนมีพฤติกรรมการกระทำและการพูดภาษาไทยแบบแอ๊บแบ๊วกันจำนวนมาก เมื่อพูดติดต่อกันนานจะกลายเป็นแฟชั่น จากกลุ่มเล็กกลายเป็นกลุ่มใหญ่ เด็กบางคนไม่รู้ว่าสิ่งไหนดี ไม่ดี ผู้ใหญ่ พ่อแม่ ผู้ปก ครองต้องดูแล ให้คำแนะนำว่าสิ่งไหนดี ไม่ดี หากปล่อยให้เด็กเรียนรู้ เลียนแบบคำพูดเหล่านี้ไปนานวันเข้าจะชิน แล้วสุดท้ายจะทำให้บุคลิก ภาพเสีย ปัญหาเหล่านี้อาจจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับคนที่ไม่คิดอะไรมาก แต่ตนมองว่าทั้ง หมดเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ากลายเป็นปัญหาใหญ่ ดังนั้น ทุกฝ่ายต้องหันมาช่วย เหลือกัน

"ทางออกของปัญหาแอ๊บแบ๊ว ทุกฝ่ายต้องให้ความตระหนักถึงพฤติกรรมที่เกิดขึ้น การที่พิธีกร ดาราบางคนบอกว่ารัฐมีหน้าที่ดูแลเรื่องอื่นที่สำคัญกว่านั้น ดิฉันมองว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาของคนที่รัฐต้องสนใจหมด สมมติหากรัฐละเลยปัญหานี้ หลับหูหลับตา ไม่สนใจดูแลแก้ไข อีก 10 ปี เด็กพูดแอ๊บแบ๊วดำรงชีวิตผสมกับคนรุ่นเก่าจะเกิดช่องว่างในสังคม บรรทัดฐานอะไรที่สร้างมาดีแล้วควรรักษาไว้บ้าง อะไรที่เกิดมาใหม่สู้อันเก่าไม่ได้ เราต้องรู้จักปฏิเสธจะเลือกรับได้ กระทรวงวัฒนธรรมไม่ได้มองเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไม้ขีดก้านเดียว หากจุดในที่ที่มีน้ำมัน อาจทำให้บ้านช่องนับ 100 หลังเสียหายในพริบตาได้เหมือนกัน" น.ส.ลัดดากล่าว

ด้านศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.กาญจนา นาค สกุล ราชบัณฑิตสำนักศิลปกรรม ประเภทวรรณศิลป์ สาขาภาษาไทย ผู้เชี่ยวชาญภาษาและวรรณคดีไทย ในฐานะนายกสมาคมครูภาษาไทยแห่งประเทศไทย และปูชนียาจารย์ด้านภาษาไทย กล่าวว่า ขอเสนอให้ภาครัฐเข้ามาตรวจสอบการใช้ภาษาไทยในรายการโทรทัศน์ เพื่อให้เหมาะสมและสร้างพฤติกรรมแบบอย่างที่ดีให้กับเยาวชน หลังพบว่ารายการเพื่อความบันเทิง ทั้งรายการเพลง รายการของวัยรุ่น และรายการที่มีตลกเป็นพิธีกร ซึ่งมักใช้ศัพท์วัยรุ่นในการสื่อสารกับผู้ชม มีการพูดจาสองแง่สองง่าม ถือว่าไม่เหมาะสม ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบในเด็กเล็กและเยาวชนได้ ทำให้ใช้ภาษาไทยไม่ถูกต้องและเหมาะสมกับกาลเทศะ ส่งผลต่อบุคลิกภาพ และยังเสียประโยชน์ด้านการสื่อสาร เนื่องจากเคยชินในการสื่อสาร และคิดว่าเป็นการพูดคุยกับเพื่อน

ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.กาญจนา กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ในอดีตการควบคุมการใช้ภาษาหรือรายการที่เหมาะสมจะมีคณะกรรมการบริหารวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ (กบว.) เป็นผู้ตรวจสอบ แต่ปัจจุบันทางภาครัฐให้แต่ละสถานีเป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบและควบคุมกันเอง ทำให้มาตรฐานการตรวจสอบและควบคุมไม่เท่ากัน ดังนั้น ภาครัฐจึงควรเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบด้วย

วันเดียวกัน "กี้" นิโคล เทริโอ ปานพุ่ม นักร้องสาวชื่อดัง ให้สัมภาษณ์ว่า สำหรับคำว่าแอ๊บแบ๊ว โดยส่วนตัวครั้งแรกที่เห็นจากสื่อก็ไม่เข้าใจความหมาย เพราะด้วยความที่เป็นลูกครึ่ง พอตอนหลังเริ่มรู้ความหมาย ถ้าเป็นคำที่ใช้พูดแซวกันในกลุ่มเพื่อนสนิท ตนก็ไม่ซีเรียส แต่ถ้าเป็นคำที่คนอื่นใช้กับตัวเราในเชิงต่อว่า ก็รู้สึกไม่โอเค อย่างที่กระทรวงวัฒนธรรมออกมาพูดเรื่องวิกฤตภาษาไทย มีการใช้ภาษาผิดเพี้ยน ส่วนตัวก็เห็นด้วยว่าเราควรใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง

ด้าน "โฟร์" ศกลรัตน์ วรอุไร นักร้องดูโอจากวง "โฟร์-มด" กล่าวว่า คำว่าแอ๊บแบ๊วที่ตนเข้าใจหมายถึงใสๆ น่ารักๆ ออกแนวคิกขุ ซึ่งแนวทางการทำงานเพลงของ "โฟร์-มด" ก็มีความน่ารักคิกขุอยู่แล้ว ทำให้หลายคนเข้าใจว่าเราพยายามทำตัวแอ๊บแบ๊ว อย่างโฟร์อายุ 20 ซึ่งถือว่าเยอะถ้าเทียบกับมดที่อายุ 16 แต่พอมาทำงานด้วยกันก็ต้องจูนไปจุดที่เข้ากันได้ แฟนเพลงก็ชอบให้โฟร์เป็นแบบนี้ ยอมรับว่าบางครั้งโฟร์ก็ต้องทำตัวลดอายุลงมาบ้าง

"ส่วนการร้องเพลงนั้นอาจจะมีบางคำที่ "โฟร์-มด" ออกเสียงไม่ชัด แต่เป็นเรื่องของการดีไซน์การร้องมากกว่า ส่วนตัวแล้วคิดว่า "โฟร์-มด" ร้องเพลงชัด เพราะถ้าไม่ชัด โปรดิวเซอร์คงไม่ปล่อยให้เพลงผ่านออกมาแน่ๆ พอโดนคนต่อว่า ว่า "โฟร์-มด" ร้องเพลงไม่ชัด โฟร์เองก็กลับมาคิดว่าเราเป็นแบบนั้นจริงหรือเปล่า ถ้าเป็นก็จะปรับปรุงแน่นอน แต่ถ้าอันไหนที่รู้สึกว่าเราไม่ได้เป็น ก็ท้อใจเหมือนกัน" นักร้องสาววงโฟร์-มดกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าลักษณะท่าทางรวมถึงการออกเสียงในลักษณะแอ๊บแบ๊วกลัวว่าจะเป็นแบบอย่างของวัยรุ่นไทยหรือไม่ นักร้องสาวกล่าวว่า "อยากให้คิดว่าการพูดแบบนี้เป็นศัพท์ของวัยรุ่นของเด็กยุคใหม่อยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าใครเอาแบบอย่างจากใคร โฟร์จะพูดแบบนี้ตอนที่คุยกับเพื่อนบ้างหรือกับพ่อแม่บ้าง แต่ไม่ได้เอาไปพูดเวลาทำงานตลอดเวลา ยิ่งเราออกสื่อ ยิ่งต้องพูดให้ชัดๆ คิดว่า "โฟร์-มด" ไม่น่าจะเป็นส่วนที่ทำให้ภาษาไทยวิบัติ"

ขณะที่ "มด" ชุติมณฑน์ ชัยรัตน์ สมาชิกคนน้องจากวง "โฟร์-มด" กล่าวว่า คำว่าแอ๊บแบ๊ว ตนไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร และอยากให้คนมอง "โฟร์-มด" เป็นความสดใสน่ารักมากกว่าที่จะมาแอ๊บแบ๊ว คาแร็กเตอร์ที่เราแสดงกันออกมาคือ การดีไซน์การทำงานให้เป็นแบบนี้ รวมถึงการร้องเพลงที่ออกเสียงไม่ชัด ต้องเข้าใจว่าเป็นเรื่องของการร้องเพลง มดเองไม่ได้ติดเอามาพูดกับพ่อแม่หรือผู้ใหญ่ อาจจะมีบ้างที่คุยกับเพื่อน เพราะมดเองก็ยังเด็กอยู่ แต่เชื่อว่าคงไม่ได้ถึงขั้นที่จะทำให้ภาษาไทยวิบัติ

"มดอยากให้คนมองว่าเป็นเรื่องของการทำงานมากกว่า ชีวิตจริงมดเป็นคนแก่น ถ้าจะให้มดมาทำตัวแอ๊บแบ๊ว คงไม่ใช่อยู่แล้ว" นักร้องสาวคนดังกล่าว

วันเดียวกัน นางปริศนา พงษ์ทัดศิริกุล เลขาธิ การคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าว อาจเกิดจากกระแสแฟชั่นการพูดของวัยรุ่น ที่มีพัฒนาการจนทำให้ภาษามีการเปลี่ยนแปลงไป ตนคิดว่าภาษาทางการสื่อสารของคนไทยมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เพราะภาษาไม่มีวันตาย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แต่ก็เป็นการเปลี่ยนแปลง หรือมีพัฒนาการไปในทางที่ดี ดังนั้น การที่วัยรุ่นนิยมพูดภาษาแอ๊บแบ๊วมากขึ้นนั้นไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่ควรจะต้องพูดให้รู้เรื่อง ไม่ผิดเสียง และสำเนียง และพัฒนาการไปในทางที่ดี ไม่ให้ทำลายภาษาดั้งเดิม อีกทั้งการพูดยังแสดงถึงบุคลิกของคนๆ นั้นด้วย เปรียบได้กับสำนวน "สำเนียงสื่อภาษากริยาส่อสกุล" ดังนั้น หากวัยรุ่นพูดภาษาแอ๊บแบ๊ว ตนคิดว่าพฤติกรรมการแสดงออกในอากัปกิริยาดังกล่าวไม่ค่อยหน้าชื่นชมนัก อย่างไรก็ตาม ตนหารือกับนายวัฒนะ บุญจับ นักวิชาการภาษาและวรรณกรรมว่า ในช่วงเดือน ส.ค.ควรจะเปิดเวทีหารือเกี่ยวกับภาษาแอ๊บแบ๊วว่ามีความเป็นมาอย่างไร และควรจะมีแนวทางการสื่อสารอย่างไร เพื่อไม่ให้ภาษาเสีย โดยจะเชิญดารา นักแสดง นักวิชาการมาร่วมหารือด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากที่มีกระแสการวิพากษ์วิจารณ์ภาษาแอ๊บแบ๊ว ออกมาจำนวนมากในขณะนี้ โดยมีการให้คำจำกัดความเกี่ยวกับคำดังกล่าวมากมาย โดยในกลุ่มวัยรุ่นนิยมให้ความหมายว่า เป็นลักษณะพฤติกรรมของวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ ต้องการแสดงกระทำ หรือมีลักษณะการพูดให้เหมือนวัยเด็กที่มีความน่ารัก ไร้เดียงสา อ่อนต่อโลก หรือการที่ผู้ใหญ่มีพฤติกรรมการแสดงออกที่อ่อนกว่าวัย ขณะที่ราชบัณฑิตยสถานกำลังจะบัญญัติศัพท์ภาษาวัยรุ่นคำว่า แอ๊บแบ๊ว ขึ้น ในพจนานุกรมคำใหม่ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ในส่วนของคำสแลง สำนวน วลี ที่มีความหมายเฉพาะ โดยให้ความหมายว่า ก.ดูเป็นเด็ก ทั้งหน้าตาและท่าทาง เช่น ผู้หญิงคนนี้อายุ 30 ปีแล้ว แต่ยังแอ๊บแบ๊วอยู่เลย, บางที่พูดสั้นๆ ว่า แอ๊บ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสืบค้นข้อมูลในเว็บไซต์ "อันไซโคลพีเดีย" ไร้สาระนุกรมเสรี http://th.uncyclopedia.info/wiki พบว่า มีการให้คำจำกัดความของกลุ่มวัยรุ่นว่า "แอ๊บแบ๊ว" เป็นคำวิเศษณ์ที่กำลังนิยมในหมู่วัยรุ่นขณะนี้ และเป็นคำที่สร้างความฮือฮามากที่ได้รับการบันทึกลงในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ทั้งนี้ "แอ๊บแบ๊ว" เป็นอาการทางจ(ริ)ตชนิดหนึ่ง มักเกิดขึ้นในเพศหญิงช่วงแรกรุ่นเป็นต้นไป มีการแสดง ออกทางอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย ดังนี้

1. คนที่ "แอ๊บแบ๊ว" จะมีดวงตากลมบ้องแบ๊ว มีการใช้เครื่องสำอางแต่งดวงตาช่วยขับให้ตาแบ๊วยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีคอนแท็กเลนส์ประเภทเพิ่มขนาดลูกตาดำ ส่วนคิ้วจะเลิกขึ้นนิดๆ หัวคิ้วจะหดเข้าหากัน ทำให้คนแอ๊บแบ๊วมีสีหน้าดูสงสัย ไร้เดียงสาอยู่ตลอดเวลา

2. มีความพยายามทำให้แก้มป่องด้วยการแสดงอาการพยายามอมลมไว้ในปาก แล้วดันกระพุ้งแก้มให้ป่องออกมาจนกระทั่งดูน่าหยิกเล่น

3. สาวแอ๊บแบ๊วจะถูกกำหนดให้มีริมฝีปากบนบางๆ แล้วยกเชิดขึ้นจนเห็นฟันคู่หน้านิดๆ ส่วนริมฝีปากล่างขณะแอ๊บแบ๊วนั้นมีข้อบังคับว่าห้ามเผยอออกมาจนห้อยย้อย แต่ต้องเกร็งไว้นิดๆ เบะคางให้ดูคล้ายแอบงอน และต้องยิงมุมปากให้เบี้ยวไปข้างที่ถนัดข้างใดข้างหนึ่งพอประมาณ เพื่อให้รูปหน้าที่คนพบเห็นจะมีลักษณะแสดงถึงบุคลิกแก่นเซี้ยว แสนซน ที่สำคัญต้องไม่ลืมรักษารูปปากไว้ตลอดเวลาที่พูดคุยด้วย เสียงที่ออกมาจะได้อ้อมแอ้ม พูดไม่ชัด

4. มาตรฐานการแอ๊บแบ๊ว คือเสียงเล็กๆ อู้อี้นิดๆ อ้อนหน่อยๆ สำหรับน้ำเสียงที่นิยมแอ๊บแบ๊วคือตั้งแต่ระดับ 2 เป็นต้นไป โดยทำอย่างไรก็ได้ให้ผิดอักขรวิธีให้มากที่สุด เช่น จริงเหรอ ออกเสียงเป็น จิ๊ง-ง๋ออออออ?? ใช่ไหม เป็น ชิเมะ? / ชิป้ะ? / ชิม้า? ไม่เอา เป็น มิอาว ววว คือว่า, เอ่อ เป็น คึ่ บั่บ / คึ่แบ๊บ / เอิ่ม / อึ่มมม อะไรน่ะ เป็น อึ่หล่ายอ้ะ? เป็นต้น

หนังสือพิมพ์ข่าวสด